ในศตวรรษที่ 21 ถือเป็นยุคโลกาภิวัตน์ ทางวิทยาศาสตร์ที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและเทคโนโลยีเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ การพัฒนาของเทคโนโลยีมัลติมีเดียกับการประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอน รูปแบบการสอนแบบดั้งเดิมไม่เหมาะสมสำหรับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษร่วมสมัย เทคโนโลยีมัลติมีเดียจึงมีเสียง,ภาพ,ภาพเคลื่อนไหวมาเต็มรูปแบบในการเรียนการสอนในชั้นเรียนภาษาอังกฤษ เทคโนโลยีจึงมีบทบาทในการส่งเสริมคสวามคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของนักเรียน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้มากขึ้น
ความจำเป็นของการใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการสอนภาษาอังกฤษ
A. การปลูกฝังความสนใจของนักเรียน
ในปัจจุบันนี้ใช้วิธีการสอนที่ล้าสมัยและสภาพแวดล้อมที่่จำเจ ในขณะที่เทคโนโลยีมัลติมีเดีย มีระบบเสียง,ภาพ,ภาพเคลื่อนไหว ช่วยกระตุ้นความสนใจของนักเรียนทำให้ได้รับข่าวสารที่มากขึ้นและสืบค้นข้อมูลได้เป็นอย่างดีทำให้นักเรียนมีส่วน่วมในกิจกรรมการเรียน
B. ส่งเสริมความสามารถการสื่อสารของนักเรียน
การเรียนการสอนแบบเก่าๆเป็นปกติที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจตัวภาษา ยากที่จะบรรลุเป้าหมายในการสื่อสารกับครูที่ให้คำแนะนำกับนักเรียนรุปแบบการคิดและการสร้างแรงจูงใจของนักเรียน, เทคโนโลยีมัลติมีเดียได้ช่วยส่งเสริมความต้องการของผู้เรียน บูรณาการการเรียนการสอนและให้นักเรียนเกิดแรงจูงใจมากขึ้น
C. เพื่อขยายความรู้ของนักเรียนเพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งถึงวัฒนธรรมตะวันตก แผ่นดิกส์ มัลติมีเดียสาามรถนำเสนอข้อมูลของนักเรียนได้มากมายมีการครอบคลุมภาษาอังกฤษ มัลติมีเดียกว้างไกลกว่าตำราด้วยเนื้อหาและวัสดุมีชีวิตจริงซึ่งมีมากตามธรรมชาติและใกล้กับชีวิต ผู้เรียนสามารถพัฒนาความสามารถในการฟังของพวกเขา และยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมตะวันตก การเรียนรู้ข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆสามารถจัดให้นักเรียนมีความรู้และนำมาเกี่ยวกับข้อมมูลร่วมกันในหมู่นักศึกษาและทำให้พวกเขามีส่วนร่วมในการอภิปรายในชั้นเรียนและการสื่อสาร
D. การปรับปรุงผลการียนการสอน เสริมสร้างการเรียนการสอนมัลติมีเดียการเรียนการสอนเนื้อหาและรูปแบบการแบ่ง "ครูเป็นศูนย์กลาง" การเรียนการสอนและพื้นฐานการปรับปรุงประสทธิภาพการเรียน เป้นเรื่องธรรมดามากที่นักเรียนของพวกเรามีชั้นเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียนขนาดใหญ่มากยังหนาแน่น ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวจึงเป็นเรื่องยากสำหรับนักเรียนที่จะมีการพูดสื่อสาร รูปแบบการสอนแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่เน้นการเรียนการสอนเกี่ยวกับครุและให้ข้อมูลที่ถูกจำกัด สภาพแวดล้อมที่แท้จริงสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจะช่วยกระตุ้นความคิดริเริ่มของนักเรียนและประหยัดเวลาในชั้นเรียน
การวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการสอนภาษาอังกฤษ
A.ความหมายหลักแทนที่ด้วยการช่วยเหลือแบบหนึ่ง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติทีเดียเป็นเครื่องมือที่ให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้บรรลุผลการเรียนการสอนที่คาดการณ์ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์มัลติมีเดียในนระหว่างการเรียนการสอนครูผู้สอนมากเกินไปทำให้ครูไม่มีบทบาทในการสอน ในทางปฎิบัติของครุมีการใช้งานในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อให้พวกเขามีส่วนร่วมมากขึ้นในการค้นหาข้อมูลและการทำงานนอกบทเรียนที่พวกเขาใช้คอมพิวเตอร์ นักเรียนจะสนใจบนหน้าจอของพวกเขาเท่านั้น ดังนั้นครูและนักเรียนจึงไม่มีการสื่อสารด้วยสายตาระหว่างกัน ด้วยเหตุนี้ความคิดของการศึกษาความคิดสร้างสรรค์ควรจะเข้าใจอย่างเต็มที่ว่าด้วยความช่วนเหลือของคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอนครูควรจะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ หลักสูตรทางด้านวิชาการและวัสดุการเรียนการสอนที่จะหาวิธีการ ความรู้ของนักศึกษาเราได้รับข้อมูลมัลติมีเดียควรจะน้อยลง เน้นที่โดดเด่นและนวัตกรรมใหม่ในการเรียนการสอน
B. สูญเสียการสื่อสารโดยการพูด การใช้สื่อมัลติมีเดียมากเกินไปทำให้ขาดปฎิสัมพันธ์ในชั้นเรียนและส่งผลให้ขาดการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียน เสียงของรูจะถูกแทนที่ด้วยเสียงของคอมพิวเตอร์
C. ทำให้ความสามารถในการคิดน้อยลง การคิดและการชื่นชมในความสวยงามของภาษาอาจจะทำให้บรรยากาศของการเรียนเรียกว่า เรียนอย่างมีความสุขมันไม่เกิด เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่ามัลติมีเดียจะมีบทบาทที่ดีในการเรียนการสอน แต่จุดประสงค์สำคัญของการเรียนการสอนเน้นให้ผู้เรียนได้คิด ซึ่งคอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์ต่างๆ ไม่สามารถที่จะแทนที่กระบวนการคิดของผู้เรียนได้
D. ความคิดนามธรรมจะถูกแทนที่ด้วยความคิด Imaginal การสอนแบบดั้งเดิมเมื่อครุต้องการเล่าเรื่องครูจะสอนอะไร มันไม่มีมัลติมีเดียครูต้องอธิบายให้นักเรียนคิดจินตนาการตามไปว่าสิ่งนั้นคืออะแต่มัลติมีเดียปัจจุบันการเรียนการสอนง่าย ทุกอย่างเห็นภาพชัดเจน ความสามารถในการอ่านของผู้เรียนก็จะถุกแทนที่ด้วยเสียงจากซีดีหรือจากคอมพิวเตอร์ ดารเขียนของผู้เรียนถูกแทนที่ด้วยคีย์บอร์ดในการพิมพ์ เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้มัลติมีเดียให้สถานการณ์ก็จะเลวร้ายไปกว่าเดิม
มัลติมีเดียเป็นเครื่องมือที่ให้ความช่วยเหลือไม่สามารถแทนที่บทบาทที่โดดเด่นของครูผู้สอนและเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนการสอนที่สมบูรณ์ นอกจากจะไม่เลียนแบบช่างการเรียนการสอนค่อนข้างจะรวมภาพต้นฉบับเดิม ประสบการณ์มนการสนันสนุนโครงการการเรียนการสอนโปรแกรมอัตโนมัติและต่อเนื่องเพื่อมเพิ่มการปรับปรุงโดยรวมของนักเรียน การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
ข้อเสนอแนะและวิธีในการแก้ปัญหาที่มีอยู่
A.ความสวยงามของบทเรียน เราต้องมีการกระตุ้นให้มีการสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนและพัฒนาทักษะการ ฟัง พูด ซึ่งคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเติมเต็มตรงนั้นได้ เพราะฉะนั้นการแปลหรือฝึกตีความของครูยังจำเป็นในการเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ครูต้องช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้มัลติมีเดียใช้ได้แต่ใช้เป็นตังช่วยครูให้มีประสิทธิภาพในการสอนมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าไม่ฉะนั้นแล้วครูก็เป็นเพียงแค่คนกำกับเท่านั้น
B.หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทดแทนกระดานดำ เพราะกระดานดำเราสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา ซึ้งการเรียนการสอนเด็กต้องมีคำถามที่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา ถ้าใช้กระดานดำครูสามารถเขียนอธิบายแก้ไขเพิ่มเติมได้ เพราะฉะนั้นอย่าใช้แต่จอคอมพิวเตอร์
C. PowerPointไม่สามารถใช้ในการแยกความคิดได้และปฎิบัติได้ ปัจจุบันมัลติมีเดียส่วนใหญ่มีบทเรียนเกี่ยวกับภาพและภาพเคลื่อนไหวจากสื่อ การสอนก่อให้เกิดผลกระทบให้นักเรียนไม่ได้เกิดการคิด อภิปรายบทเรียนต้องทันสมัยใช้แต่ PTT การตั้งคำถามของครูในการเข้าสู่บทเรียนยังจำเป็นและเป็นการกระตุ้นนักเรียนอีกด้วย
D. เครื่องมือการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมไม่ควรมองข้าม มัลติมีเดียให้ความช่วยเหลือในการเรียนการสอนไม่สามารถแทนที่ด้วยเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นครูควรจะเลือกสื่อที่เหมาะสมตามความต้องการของการสอนและบูรณาการทีใช้มัลติมีเดียที่มีอย่างเต็มที่ในการแสวงหาวิธีที่ทันสมัย
E. เทโนโลยีมัลติมีเดียไม่ควรมีมากเกินไป เพราะถ้าใช้มากเกินไปจะทำให่้เด็กสนใจแต่ที่จริงแล้วเด็กๆนั่งดูเฉยๆ และเด้กก็ไม่ได้เกิดการเรียนรู้
สรุป: สื่อมัลติมีเดียนั้นใช้ได้เหมือนกันแต่ต้องทำให้มันเป็นแค่ตัวช่วยของครุเท่านั้น ส่วนหน้าที่หลักในการจัดการห้องเรียนจะเป็นของครูที่มีชีวิตจริงๆซึ่จะเป็นการดีกว่า